ลินการ์ดฟอร์มโหด แกเร็ธ เซาธ์เกต กุนซือชาติอังกฤษ นำกองทัพ “สิงโตคำราม” ทำผลงานได้อย่างสะดุดตาจัดแจงตี อันดอร์ร่า ขาดลอย 4-0
ลินการ์ดฟอร์มโหด แกเร็ธ เซาธ์เกต กุนซือชาติอังกฤษ นำกองทัพ “สิงโตคำราม” ทำผลงานได้อย่างสะดุดตาจัดแจงตีอันดอร์ร่า ขาดลอย 4-0 พร้อมสร้างสถิติชนะ 5 เกมต่อเนื่องกันนำเป็นหัวหน้าฝูง กลุ่ม ไอ
ศึกฟุตบอลโลก 2022 รอบคัด โซนยุโรป เมื่อวันอาทิตย์ที่ 5 กันยายนก่อนหน้านี้ สำหรับแมตช์นี้ เจสซี่ ลินการ์ด โชว์ฟอร์มได้สมกับที่ เซาธ์เกต เชื่อใจเมื่อจัดแจงเหมา 2 ประตูกับ 1 แอสซิสต์
นับว่าเป็นผลงานชั้นยอดเยี่ยมของ สตาร์จากรั้วแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในขณะที่ จู๊ด เบลลิงแฮม และก็ บูคาโย่ ซาก้า เล่นได้อย่างดียิ่งด้วยเหมือนกัน ในเวลาที่นักฟุตบอลที่ดูน่าผิดหวังคงเป็น แพทริก แบมฟอร์ด ลงเปิดซิงให้อังกฤษ
แม้กระนั้นฟอร์ไม่ค่อยโดดเด่นมากเท่าไรนัก ส่วน แฮร์รี่ เคน ยังคงพึ่งพิงได้เสมอ ข้างหลังลงสู่สนามในตอนช่วงหลังและทำประตู แล้วก็ป่วนปั่นเกมรับคู่ต่อสู้ได้ตลอด 11 ตัวจริง แซม จอห์นสตัน : 5 ไม่ต้องเจอกับงานที่ทุกข์ยากมากสักเท่าไรนัก
สำหรับเพื่อการลงสู่สนามเกมที่ 2 ในนามทีมชาติอังกฤษ รีซ เจมส์ : 6 ทำผลงานได้โดดเด่นเมื่อถูกขยับขึ้นไปเล่นตำแหน่งกองกลางในตอนช่วงหลัง แล้วก็เกือบจะทำแต้มได้จากการยิงไกลสุดงามแต่ว่าโชคร้ายที่บอลชนคาน
ลินการ์ดฟอร์มโหด ไทโรน มิงส์ : 6 ผลงานโดยรวมไม่มีปัญหาอะไรทั้งหมด รวมทั้งยังชี้ให้เห็นถึงการสัมผัสบอลที่สุดยอด ที่สำคัญแมตช์นี้เจ้าตัวแทบไม่เจอแนวรุกอันดอร์ร่าบีบคั้นเท่าไรนัก จะต้องพูดว่าเป็นอีก 1 แมตช์ที่เขาเล่นได้สบายๆ บ้านผลบอล
เหมา 2 ประตูกับ 1 แอสซิสต์ นับว่าเป็นผลงานชั้นยอดเยี่ยมของ สตาร์จากรั้วแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
ลินการ์ดฟอร์มโหด คอเนอร์ เคาดี้ : 6 เหตุการณ์อย่างกับ มิงส์ ที่ไม่ค่อยโดนทดลองจากแนวรุกคู่แข่งขันเท่าไรนัก แต่ว่าที่สะดุดตาที่สุดในเกมนี้ก็คือหนีไม่พ้นจังหวะสลับขาจักรยานอากาศแต่ว่าโชคร้ายที่บอลเหินคานไปแบบจวนเจียน
คีแรน ทริปเปียร์ : 6 แทบจะกลายเป็นผู้เล่นตำแหน่งปีกซ้าย เพราะใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับการดันเกมรุกอยู่ในแดนของอันดอร์ร่า และทำหน้าที่ได้ดีเยี่ยมทั้งเกมบุกและเกมรับ นอกจากนี้ยังมีจังหวะผ่านบอลสวยๆ 2 ครั้งด้วย
จู๊ด เบลลิงแฮม : 8 แสดงให้เห็นถึงการเล่นที่เต็มไปด้วยความมั่นใจ โชว์เทคนิคและสเต็ปเท้าที่ชาญฉลาด การสัมผัสบอลทุกจังหวะยอดเยี่ยม และช่วยสร้างโอกาสสวยๆ ให้กับทีมได้หลายครั้ง ส่วนทัศนคติ และความมุ่งมั่นของนักเตะน่าจะเป็นกำลังหลักของ อังกฤษในอนาคต
จอร์แดน เฮนเดอร์สัน : 7 คอยทำหน้าที่รุ่นพี่ที่ดีเยี่ยมในการดูแลนักเตะรุ่นน้อง และคุมจังหวะเกมให้กับอังกฤษ ที่สำคัญยังมีเวลาในการครองบอลและผ่านบอลเนื่องจากอันดอร์ร่า มัวแต่ลงไปตั้งรับลึก
เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ : 5 เจอกับงานยากลำบากในการสร้างผลงานให้น่าประทับใจหลังถูกส่งลงตัวจริงในตำแหน่งมิดฟิลด์ แต่เพิ่มทำผลงานได้อย่างมีประสิทธิภาพเมื่อถูกจับไปเล่นตำแน่งแบ็กขวาที่ตัวเองถนัด
เจสซี่ ลินการ์ด : 9 ฟอร์มร้อนแรงเกินห้ามใจหลังจัดการซัด 2 ประตูกับ 1 แอสซิสต์ในรอบ 3 ปี และยังสามารถปั่นป่วนเกมรับอันดอร์ร่า ได้อย่างต่อเนื่อง ดูแล้วเขายังมีอนาคตกับอังกฤษ ส่วนที่ แมนฯ ยูไนเต็ด ต้องลุ้นกันต่อไป
แพทริก แบมฟอร์ด : 5 มีโอกาสได้ลงเล่นเปิดตัวอังกฤษ และหวุดหวิดสร้างชื่อเมื่อเกือบทำประตูได้ในช่วงต้นครึ่งหลัง แต่น่าเสียดายที่ลูกยิงของเขาดันพุ่งข้ามคาน ขณะที่ฟอร์มโดยรวมก็ไม่ได้โดดเด่นมากนัก
บูคาโย่ ซาก้า : 8 อันดอร์ร่าต้องเจอกับงานหนักในการรับมือ ซาก้า โดยความรวดเร็วของ สตาร์อาร์เซน่อล ทำให้เกมรับของทีมเยือนต้องปวดเศียรเวียนเกล้า การเคลื่อนหาตำแหน่งฉลาดหลักแหลม และยังคอยเชื่อมเกมให้ทีมได้ตลอด ที่สำคัญยังช่วยยิงประตูปิดกล่องในแมตช์นี้
ตัวสำรองที่ได้ลงสนาม แจ็ค กรีลิช (แทน รีซ เจมส์ น.61) : 6 ผลงานไม่ได้โดดเด่นอะไรมากนัก แต่มีส่วนสำคัญในการเรียกจุดโทษเมื่อทำชิงกับ เมสัน เมาท์น ในเขตโทษก่อน สตาร์เชลซี จะโดนผลักล้มในเขตโทษ
แฮร์รี่ เคน (แทน แพทริก แบมฟอร์ด น.62) : 6 ขันอาสาซัดจุดโทษ และเป็นประตูที่ 40 ของเขาที่ทำให้กับอังกฤษ ตามหลัง เวย์น รูนี่ย์ เหลือ 13 ลูก และเขาอาจจะยิงประตูได้มากกว่านี้หากได้ลงเล่นตัวจริงในแมตช์นี้ เนื่องจาก เคน มีจังหวะยิงประตูหลายครั้ง
ลินการ์ดฟอร์มโหด เมสัน เมาน์ท (จู๊ด เบลลิงแฮม น.62) : 6 พยายามสู้เพื่อแย่งบอลทุกจังหวะ โชว์สเต็ปเลี้ยงแหวกแนวรับอันดอร์ร่า ก่อนจะโดนผลัมล้มในเขตโทษ ช่วยทีมได้จุดโทษ กรีซมันน์เหนือชั้น
