แนวรุกหินเหล็กไฟ

แนวรุกหินเหล็กไฟ ปรับแผงแบ็กโฟร์! แนวรุก “หินเหล็กไฟ” ! เจาะ 5 ข้อก่อนเกมลิเวอร์พูล ปะทะ ปอร์โต้

แนวรุกหินเหล็กไฟ กลับเข้าสู่ค่ำคืนฟุตบอลถ้วยยุโรปอีกครั้ง ลิเวอร์พูลมีคิวจำต้องบุกเยือน เอฟซี ปอร์โต้ ในศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่ม บี 

แนวรุกหินเหล็กไฟ กลับเข้าสู่ค่ำคืนฟุตบอลถ้วยยุโรปอีกครั้ง ลิเวอร์พูลมีคิวจำต้องบุกเยือน เอฟซี ปอร์โต้ ในศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่ม บี วันอังคารที่ 28 ก.ย.นี้ โดยลิเวอร์พูล มีปัญหาในเรื่องเกมรับเนื่องจากปัจจุบัน

เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ โดนการบาดเจ็บโจมตีซะแล้ว เจอร์เก้น คล็อปป์ ผู้จัดการทีมฟุตบอลชาวเยอรมัน คงจะเลือกปรับแนวรับด้วยการดร็อป เฟอร์จิล ฟาน ไดค์ กับ โฌแอล มาติป และก็ใช้ อิบราฮิม่า โกนาเต้ และ โจ โกเมซ

ช่วงเวลาที่แบ็กซ้าย คอสตาส ซิมิกาส คงจะได้รับโอกาส เหมือนกันกับ เนโก วิลเลี่ยมส์ที่กำลังจะได้ยืนแบ็กขวา ขณะที่เจ้าบ้านจำต้องบอกว่าฟอร์มไม่ธรรมดาเหมือนกัน เนื่องจากในลีกพวกเขายังไม่แพ้ใคร แถมแมตช์แรกบุกไปเสมอ “ตราหมี”

แอตเลติโก มาดริด แบบไม่มีสกอร์ ฉะนั้นหาก “เดอะ เร้ดส์” ประมาทก็บางทีอาจพังทลายได้เหมือนกัน ฟีร์มีโน่หวนคืนตัวจริง
โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ หายเจ็บกลับมาลงไปในสนามได้แล้วในแมตช์ที่เสมอ เบรนท์ฟอร์ด เมื่อวันเสาร์ก่อนหน้านี้ที่ผ่านมา

ถึงแม้ในแมตช์ดังกล่าว “บ็อบบี้” ยังไม่สามารถทำผลงานได้สะดุดตาเสมือนก่อนหน้านี้ที่ผ่านมา แต่ว่าการได้เขากลับมาฟิตสมบูรณ์จะช่วยทำให้ปรับเกมบุกของลิเวอร์พูล มีมิติเพิ่มมากขึ้น จอมบุกชาวบราซิเลียน ร้างสนามไปประมาณสองอาทิตย์จากการบาดเจ็บ

กล้ามข้างหลังหัวเข่า นั่นก็เลยเป็นเหตุผลสำคัญที่ทำให้เขาควรต้องเรียกความคุ้นเคยในสนามกลับมาให้เร็วที่สุด เพราะในแมตช์ปะทะ “ผึ้งพิฆาต” เห็นได้ชัดว่า ฟีร์มีโน่ ยังดูเก้ๆกังๆการจับบอลยังไม่ชินเท้าอย่างที่สาวก “เดอะ ค็อป” คุ้นเคย

อย่างไรก็ตาม คล็อปป์ น่าจะใช้ช่องทางในเกมเยือน เอฟซี ปอร์โต้ เพื่อให้ ฟีร์มีโน่ ได้เรียกความคุ้นเคยสนามแบบเต็มสูบ เพราะเหตุว่าประสิทธิภาพของ จอมบุกเลือดแซมบ้า คงจะเป็นประโยชน์เป็นอย่างมากสำหรับเพื่อการบุกดินแดนฝอยทอง

ส่วนสองคู่หูแนวรุกก็ยังคงเป็น โมฮาเหม็ด ซาลาห์ รวมทั้ง ซาดิโอ มาเน่ ที่จะคอยก่อความโกลาหลทางขอบเส้น แนวรุกหินเหล็กไฟ ช่วงเวลาที่ ดีโอโก้ โชต้า จะทำหน้าที่เป็นกำลังเกื้อหนุนหาก ลิเวอร์พูลอยากที่จะให้มีการเปลี่ยนในเกมรุก โดยเหตุนี้แฟนบอลลิเวอร์พูล

คงจะได้ตื่นเต้นกับลีลาของ ฟีร์มีโน่ และยิ่งถ้าเขาทำผลงานได้อย่างดียิ่ง ก็นับว่าเป็นฤกษ์งามยามดีสำหรับเพื่อการเตรียมตัวในเกมพรีเมียร์ลีก รับมือ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ในช่วงสุดสัปดาห์นี้ ปรับเปลี่ยนแผงแบ็กโฟร์ แผงแบ็กโฟร์โดนวิภาควิจารณ์อย่างมาก

จากการที่เสีย 3 ประตูในเกมลีกที่เสมอกับ เบรนท์ฟอร์ด แถมปัจจุบัน เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ ยังมีปัญหาบาดเจ็บ งานนี้ทำให้ นายใหญ่ชาวเยอรมัน ควรจะมีการปรับเปลี่ยนแนวรับเพื่อเหมาะสมกับการดวลกับเจ้าบ้าน เฟอร์จิล ฟาน ไดค์

แนวรุกหินเหล็กไฟ และ โฌแอล มาติป น่าจะได้พักเพราะด้วยความที่มี “บิ๊กแมตช์” รับมือ “เรือใบสีฟ้า” รออยู่ อาจเป็นไปได้ที่ทั้งสองคนมีสิทธิ์ถูกดร็อปเพื่อรักษาสภาพความฟิต และใช้งาน อิบราฮิม่า โกนาเต้ กับ โจ โกเมซ แทน ส่วน “หนุ่มเทรนต์” โดนโรคเดี้ยงเล่นงานไปแล้ว บ้านผลบอล

แนวรุกหินเหล็กไฟ

เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ โดนการบาดเจ็บโจมตีซะแล้ว

แนวรุกหินเหล็กไฟ ฉะนั้นแบ็กขวาน่าจะเป็นโอกาสของ เนโก วิลเลี่ยมส์ ที่ฟื้นจากอาการบาดเจ็บแล้ว คล็อปป์ คงจะได้มีโอกาสลงไปโชว์ศักยภาพในแมตช์นี้ ด้านตำแหน่งแบ็กซ้ายงานนี้ คล็อปป์ คงให้โอกาส คอสตาส ซิมิกาส ลงสนาม

เพราะผลงานของเจ้าตัวก็ถือว่าทดแทน แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน ได้เป็นอย่างดี ส่วน “ร็อบโบ้” คงได้พักเพื่อจะได้มีสภาพร่างกายฟิตสมบูรณ์สำหรับเกมปะทะ แมนฯ ซิตี้ ฟาบินโญ่, เฮนโด้ จัดการคุมแดนกลาง สำหรับระบบการเล่นของ คล็อปป์

ยังคงใช้แผงกองกลาง 3 คนเหมือนเดิม และหน้าที่้นี้จะเป็น ฟาบินโญ่ กับ จอร์แดน เฮนเดอร์สัน โดยทั้งสองคนทำผลงานได้ดีเยี่ยมในเกมกับ เบรนท์ฟอร์ด ในตอนนี้ทีมยังไม่มี ติอาโก้ อัลกันทาร่า ส่วน นาบี เกอิต้า แม้ว่าจะหายเจ็บแล้วก็ตาม

แต่คาดว่า คล็อปป์ อาจจะยังไม่ใช้งาน เนื่องจากต้องการให้นักเตะฟิตเต็มร้อยเพราะมีเกมใหญ่รออยู่ในช่วงสุดสัปดาห์นี้ ฉะนั้นอีกตำแหน่ง กุนซือชาวเยอรมัน ต้องตัดสินใจว่าจะใช้งานใครระหว่าง เคอร์ติส โจนส์ กับ เจมส์ มิลเนอร์

เพราะทั้งสองคนมีสไตล์การเล่น และสร้างประโยชน์ในรูปแบบที่แตกต่างกัน หากลิเวอร์พูล ต้องการความดุดันในเกมรุกแน่นอนว่า โจนส์ ตอบโจทย์ได้ทันที แถมยังมีทีเด็ดเรื่องการยิงไกลด้วย แต่หากต้องการความแน่นอน

และการเล่นที่คอยวิ่งช่วยเกมรับ มิลเนอร์ สามารถทำได้แบบสบายๆ แนวรุกหินเหล็กไฟ จะว่าไปแล้วหาก คล็อปป์ เลือกใช้งาน โจนส์ แน่นอนว่าเกมบุกของทีมจะมีประสิทธิภาพสูงและอันตรายมากยิ่งขึ้น เพราะนักเตะมีพลังขับเคลื่อนได้เข้าขากับ ฟาบินโญ่

และ เฮนเดอร์สัน ได้เป็นอย่างดี ปอร์โต้ไม่ธรรมดาระวังให้ดี ปอร์โต้ ภายใต้การกุมบังเหียนของกุนซือแซร์โจ้ คอนไซเซา ต้องบอกว่าผลงานยอดเยี่ยมมากๆ โดยในเกมลีกแดนฝอยทองพวกเขายังไม่แพ้ใคร โดยรั้งอยู่ในอันดับ 2 ของตารางลีกประจำฤดูกาลนี้

ฟอร์มของ ปอร์โต้ กับ “เดอะ เร้ดส์” ถือว่าไม่แตกต่างกันเพราะในลีกลิเวอร์พูล ก็ยังไม่แพ้ใคร และเสมอ 2 เกม โดยทีมดังในประเทศโปรตุเกสเสียไป 4 ประตู และยิงไป 16 ลูก ขณะที่ ยอดทีมแห่งถิ่นแอนฟิลด์เสีย 4 ประตู และยิงได้ 15 ลูก

ส่วนฟอร์มในแชมเปี้ยนส์ ลีก ก็ถือว่าน่าสนใจโดยสามารถบุกไปเสมอ แอตเลติโก มาดริด แชมป์ลา ลีกา สเปน แบบไร้สกอร์ในแมตช์แรกได้ ต้องบอกว่าผลงานของพวกเขาไม่ธรรมดาเลยทีเดียว ดังนั้นการที่ลิเวอร์พูล ไปเยือนถิ่นเอสตาดิโอ โด ดราเกา

ไม่ใช่งานง่ายๆ แน่นอน นอกจากนี้พวกเขายังต้องระมัดระวัง มาร์โก กรูยิช จอมทัพชาวเซิร์บ ซึ่งเป็นเด็กเก่า “หงส์แดง” เพราะนักเตะมีพิษสงรอบตัว เกมที่ 400 ของ เฮนโด้ กับลิเวอร์พูล แทบไม่อยากเชื่อเลยว่า จอร์แดน เฮนเดอร์สัน จะลงสนามให้กับลิเวอร์พูล

มายาวนานถึง 399 แมตช์จากการแข่งขันทุกรายการ และในเกมที่จะไปเยือน ปอร์โต้ คือเกมที่ 400 ของเขาในสีเสื้อ “เดอะ เร้ดส์”
“เฮนโด้” กลายเป็นนักเตะตัวหลักของ คล็อปป์ มาตลอดนับตั้งแต่ที่กุนซือเลือดด๊อยท์ช เข้ามากุมบังเหียน

โดยผลงานของเขาโดดเด่นมากยิ่งขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งบทบาทการเป็นผู้นำทีมถือว่าสุดยอดมากๆ ปัจจุบัน ดาวเตะทีมชาติอังกฤษ วัย 31 ปีเพิ่งสลัดน้ำหมึกขยายสัญญาฉบับใหม่ไปจนถึงปี 2025

แนวรุกหินเหล็กไฟ และหากเขายังคงรักษาสภาพร่างกายและความฟิตเอาไว้ได้ โอกาสที่จะอยู่ช่วยทีมไปจนถึง 500 เกมก็มีความเป็นไปได้สูง ฮิเมเนซซัด

Author: admins