ใกล้ถึงเวลาแล้ว

ใกล้ถึงเวลาแล้ว 4 เหตุผลสำคัญที่ปารีส เตรียมปลด โปเช็ตติโน่

ใกล้ถึงเวลาแล้ว ประเด็นเรื่องอนาคตของ เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ กับ ปารีส แซงต์-แชร์กแมง ยังคงเป็นคำถามที่หลายคนสนใจ

ใกล้ถึงเวลาแล้ว ประเด็นเรื่องอนาคตของ เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่กับ ปารีส แซงต์-แชร์กแมง ยังคงเป็นคำถามที่หลายคนสนใจ เพราะกระแสเรื่องการแยกทางกันระหว่างทั้งสองฝ่ายยังคงมีออกมาอย่างต่อเนื่อง และนับวันยิ่งทวีความรุนแรง

เนื่องจากหลายสื่อมองว่า “พอช” ต้องการที่จะไปรับงานคุมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด กุนซือชาวอาร์เจนไตน์ มีสัญญาเหลืออยู่กับ “เปแอสเช” ประมาณ 18 เดือน แต่มีความเป็นไปได้ว่าเขาอาจจะอยู่กับสโมสรจนกระทั่งจบฤดูกาลนี้เท่านั้น

ถ้าหากเขาไม่โดนต้นสังกัดเฉดหัวออกไปซะก่อน นายใหญ่วัย 49 ปีซึ่งเข้ามารับเผือกร้อนแทน โธมัส ทูเคิ่ล เมื่อเดือนมกราคม 2021 สามารถนำสโมสรทำคะแนนนำห่างในตารางลีก เอิง ถึง 11 คะแนนก็ตาม แต่เขามีปัญหามากมายกับต้นสังกัด

จนทำให้การทำงานไม่ราบรื่น ตำแหน่งเทรนเนอร์ของโปเช็ตติโน่ ต้องตกอยู่ในสถานการณ์น่าเป็นห่วงทันทีหลังจากที่ แซงต์-แชร์กแมง ต้องร่วงตกรอบ 16 ทีมสุดท้ายรายการเฟร้นช์ คัพ หลังจากพ่ายการดวลจุดโทษต่อ นีซ เมื่อช่วงต้นสัปดาห์นี้

ผลการแข่งขันดังกล่าวยิ่งเพิ่มความตึงเครียดให้กับบอร์ดบริหาร “เปแอสเช” ซึ่งมองเห็นได้ชัดเจนยิ่งขึ้นในช่วงระหว่างเดือนมกราคมที่ผ่านมา โดย “เลอ ปารีเซียง” สื่อดังแดนน้ำหอม รายงานว่ายอดทีมแห่งเมืองหลวงฝรั่งเศส

กำลังมองหากุนซือคนใหม่เพื่อประเมินความสนใจของเป้าหมายของพวกเขาว่าสนใจที่จะรับงานแทนโปเช็ตติโน่ หรือไม่ สำหรับตอนนี้มีการวิเคราะห์กันแล้วว่า 4 เหตุผลสำคัญที่ทำให้ ปารีสแซงต์แชร์กแมง อาจตัดสินใจแยกทางกับโปเช็ตติโน่

หลังจบฤดูกาล 2021/2022 โดยจะมีอะไรกันบ้างไปเช็คกันได้เลย อยากได้ ซีดาน เพื่อนำทีมบรรลุเป้าหมายหลัก ซีเนดีน ซีดาน ที่ตอนนี้ยังคงว่างงานหลังจากแยกทางกับ เรอัล มาดริด เมื่อช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา เป็นหนึ่งในกุนซือที่ แซงต์-แชร์กแมง ติดต่อทาบทาม

แต่ดูเหมือนว่าเจ้าตัวไม่ค่อยอยากจะรับงานนี้เท่าไหร่ หนึ่งในเหตุผล “ซิซู” ไม่ต้องการรับงานก็เพราะเขาไม่อยากนำทีมปะทะกับ เรอัล มาดริด ในรอบ 16 ทีมสุดท้าย ศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีกในช่วงปลายเดือนนี้ ขณะเดียวกันการที่สโมสรอยากได้กุนซือใหม่

เนื่องจากโปเช็ตติโน่ กับบอร์ดบริหารสโมสร รวมทั้ง เลโอนาร์โด้ ผู้อำนวยการกีฬา มีปัญหาไม่ลงรอยกันหลายเรื่อง และงานนี้หลายสิ่งหลายอย่างอาจจะยิ่งย่ำแย่ลงหากเขาไม่สามารถปราบ “ราชันชุดขาย” ในการแข่งขันถ้วยใบโตได้

ใกล้ถึงเวลาแล้ว หลังจากที่พ่ายแพ้ในนัดชิงชนะเลิศโทรฟี่ “บิ๊กเอียร์” ต่อ บาเยิร์น มิวนิค เมื่อปี 2020 ในยุคที่ ทูเคิ่ล กุมบังเหียน แน่นอนว่า “เปแอสเช” มุ่งมั่นที่จะคว้าแชมป์รายการนี้ให้ได้ ฉะนั้นหากไม่สำเร็จ พวกเขาจึงใช้เหตุผลนี้ในการปลด โปเช็ตติโน่ออกจากตำแหน่งด้วยความชอบธรรม บ้านผลบอล

ใกล้ถึงเวลาแล้ว

นับวันยิ่งทวีความรุนแรง เนื่องจากหลายสื่อมองว่า “พอช” ต้องการที่จะไปรับงานคุมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด

ใกล้ถึงเวลาแล้ว ผลงานน่าผิดหวังไม่ต่างกับ ทูเคิ่ล ในตอนแรกสโมสรดูเหมือนว่าโปเช็ตติโน่ น่าจะเหมาะสมกับการนำทีมประสบความสำเร็จ แต่เมื่ออยู่กับสโมสรไปเรื่อยๆ กลายเป็นว่าแนวทางในการทำทีมมันน่าผิดหวังมากๆ ซึ่งไม่ต่างอะไรกับ ทูเคิ่ล !

“พอช” มักจะโดนสื่อตั้งคำถามเกี่ยวกับแนวทางในการสร้างทีม และเจ้าตัวก็ตอบซ้ำแล้วซ้ำเล่าเกี่ยวกับวิธีของเขามาตลอด นอกจากนี้บอร์ดบริหารยังรู้สึกผิดหวังกับ นายใหญ่ชาวโปเช็ตติโน่ที่ไม่สามารถดึงศึกยภาพของลูกทีมออกมาได้อย่างเต็มที่

แม้ว่าทีมจะเต็มไปด้วยขุมกำลังระดับซูเปอร์สตาร์มากมายอย่างเช่น เนย์มาร์, คีลิยัน เอ็มบัปเป้, ลิโอเนล เมสซี่, อังเคิล ดิ มาเรีย, เซร์คิโอ รามอส, อัชราฟ ฮาคิมี่ และ จานลุยจิ ดอนนารุมม่า แต่ทุกคนยังเล่นได้ต่ำกว่ามาตรฐาน ซึ่งทั้งหมดนี้ โปเช็ตติโน่ต้องมีส่วนรับผิดชอบเต็มๆ

บอร์ดบริหารไม่หนุนหลัง โปเช็ตติโน่ไม่ค่อยแฮปปี้กับความกระตือรือร้นเรื่องการเสริมทัพในช่วงตลาดลูกหนังฤดูหนาว โดยเขาได้ขอบอร์ดบริหารว่าต้องการเซ็นสัญญากับ ต็องกีย์ เอ็นดอมเบเล่ ซึ่งเป็นมิดฟิลด์ที่เจ้าตัวเคยเซ็นเป็นสถิติสโมสรตอนอยู่กับ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ ด้วยค่าตัว 55 ล้านปอนด์ แต่ไม่สำเร็จ

แน่นอนว่าการที่โดนสโมสรเมินความต้องการ นั่นแสดงให้เห็นว่าต้นสังกัดไม่ให้การสนับสนุนเขาอย่างเต็มที่ แต่มันก็มองได้สองมุม มุมแรกโปเช็ตติโน่ ไม่พอใจที่สโมสรไม่หนุนหลัง อีกมุม “เปแอสเช” ไม่ทำแบบนั้น เนื่องจากไม่อยากให้เขาทำหน้าที่นี้อีกต่อไป

สมาธิอยู่กับแมนฯ ยูไนเต็ด สำหรับประเด็นนี้ไม่ใช่เรื่องใหม่แต่การที่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด สนใจอยากได้โปเช็ตติโน่ ไปกุมบังเหียน นั่นทำให้เขาไม่ค่อยมีสมาธิในการทำงานกับทีม และส่งผลต่อผลงานที่ไม่น่าอภิรมย์ซักเท่าไหร่

“ปีศาจแดง” พยายามที่จะควานหาผู้จัดการทีมคนใหม่ เพื่อที่จะนำมาทำหน้าที่ต่อจาก ราล์ฟ รังนิก ซึ่งมีสัญญาทำงานคุมทีมจนถึงซัมเมอร์เท่านั้น ก่อนที่เขาจะขยับขึ้นไปทำหน้าที่เป็นที่ปรึกษาต่อไป

ใกล้ถึงเวลาแล้ว โปเช็ตติโน่ตกเป็นเป้าหมายของ แมนฯ ยูฯ มานานแล้ว และเป็นเต็งหนึ่งที่จะได้รับตำแหน่งนายใหญ่แห่งถิ่นโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด เหนือกว่า เอริก เทน ฮาก จาก อาแจ็กซ์ อัมสเตอร์ดัม และ หลุยส์ เอ็นรีเก้ นายใหญ่ทีมชาติสเปน คล็อปป์มองหวาน

Author: admins