เริ่มต้นดี คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ยอดเยี่ยมในนักฟุตบอลที่ยิ่งใหญ่ที่สุดตลอดไปในวงการลูกหนังโลก และก็ตอนนี้ชื่อของเขาก็ยังคงโลดแล่นอยู่ในระดับท็อปมานานมากกว่า 15 ปีแล้ว
เริ่มต้นดี คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ยอดเยี่ยมในนักฟุตบอลที่ยิ่งใหญ่ที่สุดตลอดไปในวงการลูกหนังโลก และก็ตอนนี้ชื่อของเขาก็ยังคงโลดแล่นอยู่ในระดับท็อปมานานมากกว่า 15 ปีแล้ว ตัวรุกผู้ครอบครองบัลลงดอร์ 5 สมัย
เติบโตมาจากการเป็นเด็กปั้นของ สปอร์ติ้ง ลิสบอน ก่อนที่จะย้ายมาเล่นให้ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ซึ่งเป็นสโมสรที่ทำให้เขาก้าวขึ้นมาเป็นสตาร์ลูกหนังอย่างที่มองเห็นเดี๋ยวนี้ ในตอนก่อนหน้าที่ผ่านมามีนักเตะมากไม่น้อยเลยทีเดียว
ที่ได้รับการชื่นชมว่ามีศักยภาพที่จะก้าวขึ้นมาเป็น “นิว โรนัลโด้” แต่ว่าในที่สุดแล้วยังไม่มีผู้ใดที่จะสามารถก้าวขึ้นมันเทียบเคียงชั้น “ซีอาร์ 7” ได้เลย สำหรับครั้งนี้จะขอยกตัวอย่าง 5 นักฟุตบอลอาชีพที่ครึ่งเดียวเคยได้รับการชมเชยว่าจะก้าวขึ้นมาเป็น “โรนัลโด้คนใหม่”
แต่ว่าข้อสรุปท้ายที่สุดก็ดับสนิทศิษย์ห้ามลง นานี่ แถบจะถอดบล็อกเส้นทางชีวิตการค้าแข้งมาเหมือนกับ โรนัลโด้ เพราะเขาเติบโตขึ้นมาจากการเป็นแข้งดาวรุ่งพุ่งแรงของ สปอร์ติ้ง ลิสบอน และอายุน้องกว่า “เฮียโด้” แค่ปีเดียวเท่านั้น
เซอร์อเล็กซ์ ฟอร์กูสัน สั่งให้สโมสรควักกระเป๋าจำนวน 21 ล้านปอนด์ (ราว 924 ล้านบาท) เพื่อดึง นานี่ มาร่วมทัพในปี 2007 โดยหวังว่าสตาร์ชาวโปรตุกีส จะผลิตผลงานดีมีคุณภาพเหมือนกับ โรนัลโด้ แต่ท้ายที่สุดเขากลับไม่สามารถโชว์ฟอร์มได้โดดเด่นกับ “ผีแดง”
แถมผลงานยังห่างชั้นกับ “ซีอาร์ 7” หลายขุม นานี่ อยู่ค้าแข้งในถิ่นโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด เป็นเวลา 8 ปี โดยมีค่าเฉลี่ยในการลงสนามให้สโมสรเพียง 18 เกมในพรีเมียร์ลีกต่อซีซั่นเท่านั้น ก่อนที่จะย้ายไปเล่นให้ เฟเนร์บาห์เช่ ในปี 2015 ด้วยค่าตัวแค่ 4ล้านปอนด์
สำหรับตอนนี้ ดาวเตะเลือดฝอยทอง อาจตัดสินใจแขวนสตั๊ด หลังจากถูก ออร์ลันโด้ ซิตี้ สโมสรในศึกเมเจอร์ลีก ซอคเก้อร์ (เอ็มแอลเอส) สหรัฐอเมริกา ปล่อยตัวออกจากทีม กาเบรียล โอแบร์กต็อง เซ็นสัญญามาเล่นให้ แมนฯ ยูฯ
ในฐานะตัวตายตัวแทนของโรนัลโด้ ที่อำลาสโมสรเพื่อไปค้าแข้งกับ “ราชันชุดขาว” เรอัล มาดริด ในปี 2009 ดาวเตะเลือดเฟร้นช์ ย้ายจาก บอร์กโดซ์ ด้วยสนนราคาน้ำพริกน้ำปลาแค่ 3ล้านปอนด์ แต่ชีวิตของเขาใน “โรงละครแห่งความฝัน” ไม่ได้เป็นดั่งฝัน
เพราะนักเตะเล่นไม่ออกเลย แถมยิงประตูในลีกให้กับ “เร้ด เดวิลส์” ไม่ได้เลย หลังจาก 2 ปีที่ตกระกำลำบากในโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด สุดท้าย โอแบร์กต็อง ต้องหอบเสื้อผ้าออกจากสโมสรเพื่อไปเล่นให้ นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด
แต่สถานการณ์ก็ไม่ได้ดีขึ้นเลย ตลอด 5 ปีที่อยู่กับ “สาลิกาดง” เจ้าตัวลงสนามในลีก 58 เกมยิงได้แค่ 2 ประตูเท่านั้น ปัจจุบัน โอแบร์กต็อง อายุ 32 ปีเข้าไปแล้ว และเล่นให้กับ ชาร์ลอตต์ อินดิเพนเดนซ์ ทีมระดับดิวิชั่นสองในดินแดนลุงแซม
เริ่มต้นดี โดยมี ซิลแว็ง มาร์กโวซ์ แข้งเพื่อนร่วมชาติ และอดีตดาวเตะนิวคาสเซิ่ล เล่นด้วยกัน บ้านผลบอล
ตัวรุกผู้ครอบครองบัลลงดอร์ 5 สมัยเติบโตมาจากการเป็นเด็กปั้นของ สปอร์ติ้ง ลิสบอน
เริ่มต้นดี กอนซาโล่ เกเดส ครั้งหนึ่ง กอนซาโล่ เกเดส เป็นหนึ่งในนักเตะดาวรุ่งพุ่งแรง และหลายคนยกย่องว่าเขามีพรสวรรค์ที่สามารถพัฒนาขึ้นมาเป็นหนึ่งในยอดแข้งทวีปยุโรปได้ หลังจากที่เฉิดฉายกับ บาเลนเซีย
สตาร์ลูกหนังชาวโปรตุกีส ผ่านการฝึกปรือฝีเท้ามาจากอะคาเดมี่ของเบนฟิก้า และฟอร์มของเขาก็ไปเข้าตา ปารีส แซงต์-แชร์กแมง ที่จัดการซื้อตัวมาเสริมทัพทั้งๆ ที่ตอนนั้นนักเตะอายุเพียง 20 ปีเท่านั้น อย่างไรก็ตามนักเตะไม่ค่อยได้รับโอกาสมากนัก
ก่อนจะโดนส่งไปเล่นแบบยืมตัวกับ บาเลนเซีย ซึ่งที่นี่เองพรสวรรค์ของเขาได้ระเบิดออกมา จนกระทั่งมีโอกาสได้เซ็นสัญญาย้ายมาเล่นกับ “ไอ้ค้างคาว” ถาวร พร้อมทั้งลงเล่นให้ต้นสังกัดไปแล้วมากกว่า 90 เกมในลา ลีกา ตลอดช่วง 3 ปีที่ผ่านมา
ผลงานที่โดดเด่นของ เกเดส คงหนีไม่พ้นการช่วยให้ บาเลนเซีย คว่ำ “เจ้าบุญทุ่ม” บาร์เซโลน่า ผงาดคว้าแชมป์โกปา เดล เรย์ ในปี 2019 ซึ่งเป็นโทรฟี่แรกของสโมสรในรอบ 11 ปีเลยทีเดียว วิลฟรีด ซาฮา วิลฟรีด ซาฮา เซ็นสัญญามาเล่นกับ แมนฯ ยูฯ ในเดือนมกราคม 2013
แต่ไม่ได้มีโอกาสได้ลงเล่นเปิดตัวจนกระทั่ง เดวิด มอยส์ เข้ามากุมบังเหียนในช่วงซัมเมอร์ปีนั้น ดาวเตะทีมชาติไอวอรี่ โคสต์ เติบโตมาจากศูนย์ฝึกเยาวชนของ คริสตัล พาเลซ และสร้างชื่อเสียงจากการลงสนามให้ “ดิ อีเกิ้ลส์” มากว่า 100 เกมลีกตลอดช่วง 3 ซีซั่น
ซาฮา ถูกส่งกลับไปเล่นแบบยืมตัวกับ พาเลซ ในฤดูกาล 2014/2015 ก่อนที่จะเซ็นสัญญาถาวรกับต้นสังกัดเดิม ปัจจุบันเขาอายุ 29 ปีและผลงานก็ยังคงสุดยอดกับสโมสร โดยลงเล่นเกมลีกมากกว่า 226 แมตช์นับตั้งแต่หวนกลับมาอยู่กับสโมสร
บรูม่า เป็นอีกหนึ่งผลผลิตชั้นดีจาก สปอร์ติ้ง ลิสบอน ซึ่งแน่นอนว่าการเติบโตมากับสโมสรนี้ทำให้เขาได้รับการคาดหวังว่าจะเป็น “นิว โรนัลโด้” และก็น่าจะเป็นแบบนั้นเมื่อโชว์ฟอร์มดุซัดไป 80 ประตูให้กับทีมเยาวชนสโมสรในทุกระดับ
ก่อนจะก้าวขึ้นมาให้กับทีมชุดใหญ่ อย่างไรก็ตามในปีถัดมาหลังจากที่มีปัญหาเรื่องการเจรจาสัญญาฉบับใหม่กับ สปอร์ติ้ง ลิสบอน สุดท้าย บรูม่า ตัดสินใจย้ายไปเล่นให้กับ กาลาตาซาราย และใช้เวลานานถึง 4 ปีที่ดินแดนไก่งวง
หลังจากนั้น บรูม่า ย้ายไปเล่นกับ แอร์เบ ไลป์ซิก ในปี 2017 ก่อนที่จะเดินทางไปทำมาหารับประทานกับ พีเอสวี ไอนด์โฮเฟ่น ในปี 2019 และโดนส่งไปเล่นแบบยืมตัวกับ โอลิมเปียกอส เมื่อฤดูกาลที่ผ่านมา
เริ่มต้นดี สำหรับตอนนี้ ดาวเตะวัย 27 ปี พยายามที่จะเรียกฟอร์มเก่งของตัวเองกลับคืนมาให้ได้ โดยเขามีโอกาสได้ลงสนามให้ ไอนด์โฮเฟ่น ในเกมลีกฤดูกาลนี้ไปแล้ว 11 แมตช์ และยิงไป 5 ประตู วาร์ดี้ผนึกแมดดิสัน
